เครื่องกรองน้ำ RO&DI (Reverse Osmosis & Deionization)

เครื่องกรองน้ำ RO&DI (Reverse Osmosis & Deionization)
เป็นเครื่องกรองน้ำที่ใช้ระบบการกรองหลายขั้นตอนเพื่อให้ได้น้ำที่มีความบริสุทธิ์สูง

ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการน้ำที่ปราศจากสารปนเปื้อนต่าง ๆ
เช่น น้ำดื่ม, น้ำใช้ในห้องปฏิบัติการ, หรือในอุตสาหกรรมที่ต้องการน้ำที่มีความสะอาดและปราศจากแร่ธาตุ

คุณสมบัติของเครื่องกรองน้ำ RO&DI:

1. การกรองแบบ RO (Reverse Osmosis):

   • ใช้กระบวนการการกรองที่ช่วยกำจัดสารเคมี, โลหะหนัก, และสิ่งปนเปื้อนในน้ำ เช่น สารพิษ, แบคทีเรีย, และไวรัส

   • กระบวนการนี้จะกรองน้ำผ่านเมมเบรนที่มีรูเล็กมาก ทำให้สามารถกำจัดสารที่มีขนาดใหญ่หรือสารที่ละลายน้ำออกจากน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

   • โดยสามารถกรองได้ถึง 90-99% ของสารปนเปื้อนในน้ำ

2. การกรองแบบ DI (Deionization):

   • ใช้กระบวนการกรองน้ำที่ช่วยกำจัดแร่ธาตุ (เช่น แคลเซียม, แมกนีเซียม) และไอออนต่าง ๆ ที่ทำให้น้ำมีความกระด้าง

   • กระบวนการนี้จะใช้เรซินที่มีคุณสมบัติในการดูดซับไอออนที่ทำให้น้ำมีการนำไฟฟ้า

Spec และการใช้งาน:

1. น้ำที่กรองได้:

   • น้ำที่ได้จากเครื่องกรอง RO&DI จะมีความบริสุทธิ์สูง สามารถใช้สำหรับการดื่มหรือการใช้งานในอุตสาหกรรมที่ต้องการน้ำที่ปราศจากสารปนเปื้อนหรือแร่ธาตุ

2. ความจุในการกรอง:

   • ขึ้นอยู่กับขนาดและรุ่นของเครื่อง โดยทั่วไปเครื่องกรอง RO&DI จะมีความจุในการกรองตั้งแต่ 5 ถึง 10 ลิตรต่อนาที หรือมากกว่านั้นสำหรับรุ่นที่ใหญ่ขึ้น

3. การบำรุงรักษา:

   • ต้องมีการเปลี่ยนไส้กรอง RO และเรซิน DI ทุกๆ ระยะเวลาที่กำหนดตามคำแนะนำของผู้ผลิต (เช่น ทุก 6 เดือนถึง 1 ปี) เพื่อให้เครื่องทำงานได้มีประสิทธิภาพ

4. การใช้งานในอุตสาหกรรม:

   • ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น การผลิตยา, การผลิตอาหารและเครื่องดื่ม, การทำเครื่องสำอาง, และในห้องปฏิบัติการวิจัย ต้องการน้ำที่ปราศจากแร่ธาตุและสารปนเปื้อน จึงต้องใช้เครื่องกรอง RO&DI เพื่อให้ได้น้ำที่มีคุณภาพสูง

      

เครื่องกรองน้ำ RO&DI สามารถใช้ในการแพทย์ได้
แต่จะต้องคำนึงถึงการใช้งานที่เฉพาะเจาะจง
โดยส่วนใหญ่จะใช้ในสภาพแวดล้อมที่ต้องการน้ำที่มีความบริสุทธิ์สูง
เช่น:

1. น้ำสำหรับการใช้ในห้องปฏิบัติการทางการแพทย์:

• น้ำที่ใช้ในห้องปฏิบัติการ (Lab-grade water) ต้องมีความสะอาดและปราศจากสารปนเปื้อนที่อาจส่งผลต่อผลการทดลองหรือการทดสอบทางการแพทย์

• เครื่องกรองน้ำ RO&DI สามารถผลิตน้ำที่มีความบริสุทธิ์สูง ซึ่งเหมาะสำหรับใช้ในห้องปฏิบัติการทางการแพทย์

2. น้ำสำหรับการผลิตยา:

• ในการผลิตยา น้ำที่ใช้จะต้องมีความบริสุทธิ์สูง เพื่อหลีกเลี่ยงการปนเปื้อนของสารต่าง ๆ ที่อาจส่งผลต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์ยา

• เครื่องกรอง RO&DI สามารถใช้ในการกรองน้ำให้มีคุณภาพสูงเพื่อลดความเสี่ยงจากการปนเปื้อน

3. การใช้งานในเครื่องมือแพทย์ (Medical Devices):

• เครื่องมือบางประเภท เช่น เครื่องฟอกเลือด, เครื่องวัดหรือเครื่องมือที่ใช้ในห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ อาจต้องการน้ำที่มีความบริสุทธิ์สูง

• น้ำที่มีแร่ธาตุหรือสารเคมีอาจทำให้เครื่องมือเสียหายหรือทำงานผิดพลาดได้

4. น้ำสำหรับการล้างเครื่องมือทางการแพทย์ (Sterilization and Cleaning):

• ในกระบวนการฆ่าเชื้อและทำความสะอาดเครื่องมือทางการแพทย์ เช่น การล้างเครื่องมือผ่าตัดหรือเครื่องมือในห้องปฏิบัติการ ต้องใช้น้ำที่ปราศจากสิ่งปนเปื้อน

• เครื่องกรอง RO&DI สามารถให้ผลลัพธ์น้ำที่ปราศจากแร่ธาตุและสารปนเปื้อนที่อาจมีผลต่อความสะอาดของเครื่องมือ

ข้อควรระวัง:

• ในบางกรณีที่ต้องการน้ำที่มีคุณสมบัติพิเศษ เช่น น้ำที่ปราศจากเชื้อจุลินทรีย์ หรือมีระดับความบริสุทธิ์สูงในระดับพิเศษ (เช่น สำหรับการเตรียมสารเคมีหรือวัสดุสำหรับการผ่าตัด) อาจจำเป็นต้องใช้เครื่องกรองที่มีความสามารถสูงกว่า RO&DI เท่านั้น เช่น เครื่องกรองน้ำที่มีการฆ่าเชื้อด้วยรังสี UV หรือเครื่องที่มีการควบคุมคุณภาพน้ำอย่างเข้มงวด

• น้ำที่ผ่านการกรองด้วย RO&DI เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปในห้องปฏิบัติการหรือการผลิตยา แต่ถ้าความบริสุทธิ์ต้องการในระดับสูงสุด (เช่น ในการผลิตยาเฉพาะทางหรือการเตรียมวัคซีน) อาจต้องใช้ระบบที่ควบคุมคุณภาพน้ำในหลายขั้นตอนมากขึ้น

สรุป:

เครื่องกรองน้ำ RO&DI สามารถใช้ในทางการแพทย์ได้ในหลายกรณี เช่น การใช้ในห้องปฏิบัติการ, การผลิตยา, หรือการล้างเครื่องมือทางการแพทย์ แต่ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าเครื่องสามารถผลิตน้ำที่มีคุณภาพตามมาตรฐานที่ต้องการในแต่ละกรณี.