การ ล้างเกลือ (Desalting หรือ Regeneration Cleaning) ในระบบ RO
มีผลต่อประสิทธิภาพของเมมเบรนและคุณภาพน้ำที่ผลิตได้ ซึ่งมีทั้ง ข้อดีและข้อเสีย ดังนี้
✅ ข้อดีของการล้างเกลือในระบบ RO
-
เพิ่มประสิทธิภาพของเมมเบรน
- ลดการอุดตันของเมมเบรนจากการสะสมของ เกลือ (Salt Fouling), ตะกอนแคลเซียม (CaCO₃), ซิลิกา (SiO₂) และสิ่งสกปรกอื่นๆ
- ช่วยให้ %Salt Rejection สูงขึ้น ส่งผลให้น้ำที่ผ่านเมมเบรนมี TDS ต่ำลง
-
ยืดอายุการใช้งานของเมมเบรน
- ลดความเสี่ยงที่เมมเบรนจะเสื่อมสภาพเร็ว ช่วยลดต้นทุนในการเปลี่ยนเมมเบรนใหม่
-
ลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน
- ลดปริมาณสารเคมีที่ต้องใช้ปรับปรุงคุณภาพน้ำ เช่น Antiscalant หรือ Acid Dosing
- ลดการใช้พลังงานของ High Pressure Pump เพราะเมมเบรนที่สะอาดช่วยให้แรงดันทำงานปกติ
-
ช่วยรักษาคุณภาพน้ำให้คงที่
- น้ำที่ผลิตได้ยังคงมีค่าคุณภาพตามที่กำหนด เช่น ค่าการนำไฟฟ้า (Conductivity) ต่ำและไม่มีรสเค็ม
❌ ข้อเสียของการล้างเกลือในระบบ RO
-
ต้องหยุดการผลิตน้ำชั่วคราว
- การทำความสะอาดต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงถึง 1 วัน ซึ่งอาจกระทบกับกระบวนการผลิตที่ต้องการน้ำ RO อย่างต่อเนื่อง
-
ต้นทุนสารเคมีในการล้างเมมเบรน
- จำเป็นต้องใช้สารเคมี เช่น กรด (Acid) และสารทำความสะอาดเมมเบรน (Membrane Cleaning Chemicals) ซึ่งมีต้นทุนและต้องใช้ในปริมาณที่เหมาะสม
-
ถ้าทำไม่ถูกวิธี อาจทำให้เมมเบรนเสียหาย
- การล้างด้วยสารเคมีแรงเกินไป หรืออุณหภูมิสูงเกินไป อาจทำให้เมมเบรนเสื่อมเร็ว
- หากล้างไม่สะอาด อาจทำให้เกิด Membrane Biofouling จากเชื้อแบคทีเรียและสารอินทรีย์สะสม
-
ต้องทิ้งน้ำที่ใช้ล้างออกจากระบบ
- น้ำที่ใช้ล้างเมมเบรนอาจมีสารเคมีตกค้าง ต้องมีระบบกำจัดที่เหมาะสม ไม่ให้กระทบต่อสิ่งแวดล้อม
📌 ข้อควรระวังหลังการล้างเกลือ
✅ ควร ตรวจสอบค่า %Salt Rejection และ TDS หลังการล้าง เพื่อให้แน่ใจว่าเมมเบรนกลับมาทำงานปกติ
✅ ตรวจวัด แรงดัน (Pressure) และ Flow Rate เพื่อดูว่ามีการอุดตันเหลือน้อยที่สุด
✅ หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีรุนแรงหรือทำการล้างบ่อยเกินไป เพราะอาจทำให้เมมเบรนเสียหายเร็วขึ้น
หากต้องการแนวทางการล้างเกลือที่เหมาะสมกับระบบของคุณ แจ้งรายละเอียดเพิ่มเติม เช่น ชนิดของเมมเบรน, ค่า TDS ปัจจุบัน, และปัญหาที่พบ
ทางทีมงาน Nano ยินดีจะช่วยแนะนำวิธีการล้างที่ดีที่สุดให้ครับ 😊