💧 น้ำกลั่น (Distilled Water) ดื่มได้หรือไม่?

💧 น้ำกลั่น (Distilled Water) ดื่มได้หรือไม่?

✅ น้ำกลั่นสามารถดื่มได้ เพราะเป็นน้ำที่ผ่านการกลั่นจนบริสุทธิ์ ไม่มีสิ่งปนเปื้อน เช่น โลหะหนัก, แบคทีเรีย, ไวรัส, หรือสารเคมี แต่❗มีข้อควรระวังในการดื่มระยะยาว

🔬 น้ำกลั่นคืออะไร?

น้ำกลั่น (Distilled Water) คือ น้ำที่ถูกต้มจนเป็นไอ และควบแน่นกลับมาเป็นของเหลว ทำให้ สิ่งสกปรก, แร่ธาตุ, และสารปนเปื้อนถูกกำจัดออกไปเกือบทั้งหมด

🛑 สิ่งที่น้ำกลั่นไม่มี:

• แร่ธาตุที่มีประโยชน์ เช่น แคลเซียม, แมกนีเซียม, โซเดียม, โพแทสเซียม
• สารละลายที่อยู่ในน้ำธรรมชาติ

🔥 ข้อดีของการดื่มน้ำกลั่น

✅ ปลอดภัยจากสารปนเปื้อน – ไม่มีโลหะหนัก, คลอรีน, ฟลูออไรด์ หรือแบคทีเรีย
✅ เหมาะกับการใช้ในอุตสาหกรรม – ใช้ในห้องแล็บ, เครื่องมือแพทย์, เครื่องใช้ไฟฟ้า
✅ ช่วยขับสารพิษบางชนิดออกจากร่างกาย

⚠️ ข้อเสียของการดื่มน้ำกลั่นเป็นประจำ

❌ ขาดแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย

• น้ำกลั่นไม่มี แคลเซียมและแมกนีเซียม ซึ่งจำเป็นต่อกระดูกและกล้ามเนื้อ
• อาจทำให้เกิด ภาวะขาดแร่ธาตุ หากดื่มเป็นระยะเวลานานโดยไม่รับแร่ธาตุจากอาหารหรือเครื่องดื่มอื่น

❌ มีความเป็นกรดอ่อน ๆ

• น้ำกลั่นมีค่า pH ประมาณ 5.5-6.5 ซึ่งอาจทำให้ร่างกายเสียสมดุลกรด-ด่างได้ หากดื่มต่อเนื่อง

❌ อาจดึงแร่ธาตุออกจากร่างกาย

• น้ำกลั่นไม่มีแร่ธาตุ จึงอาจดูดซึมแร่ธาตุจากร่างกายแทน

🚰 น้ำดื่มที่เหมาะสมกว่าคือน้ำอะไร?

💙 น้ำแร่ธรรมชาติ (Mineral Water)

• มีแร่ธาตุที่ช่วยบำรุงร่างกาย
• ค่า pH เป็นกลาง (7.0) หรืออัลคาไลน์ (มากกว่า 7.0)

💙 น้ำ RO ที่เติมแร่ธาตุ (RO + Mineral)

• น้ำที่ผ่านระบบกรอง RO แล้วเติมแร่ธาตุกลับเข้าไป

💙 น้ำอัลคาไลน์ (Alkaline Water)

• น้ำที่มีค่า pH สูง ช่วยปรับสมดุลกรด-ด่างในร่างกาย

🔍 สรุป: น้ำกลั่นดื่มได้ไหม?

✅ ดื่มได้เป็นครั้งคราว โดยไม่มีอันตราย
❌ ไม่ควรดื่มเป็นหลักทุกวัน เพราะไม่มีแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย
💡 ทางเลือกที่ดีกว่า คือ น้ำแร่, น้ำ RO เติมแร่ธาตุ, หรือน้ำอัลคาไลน์ เพื่อให้ร่างกายได้รับแร่ธาตุครบถ้วน ✅